วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

โครงการกีฬาภาคฤดูร้อน ปี 2552

นายสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) เป็นประธานแถลงข่าวโครงการฝึกสอนกีฬาภาคฤดูร้อน "ร้อนนี้มีกีฬาเพื่อลูกรัก" ประจำปี 2552 ที่ห้องประชุมศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมด้วย ดร.พัฒนาชาติ กฤดิบวร และ ดรสุวัตร สิทธิหล่อ รองผอ.สพก, ชลิต เขียวพุ่มพวง ผอ.สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการนันทนาการ และ "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผอ.สถาบันพัฒนาบุคลากรการกีฬาแห่งชาติ

สำหรับโครงการ "ร้อนนี้มีกีฬาเพื่อลูกรัก" จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มี.ค. - 7 พ.ค. นี้ แบ่งเป็นการเรียนการสอนออกเป็นเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเขตกรุงเทพฯ ที่สนามศุภชลาศัย มี 11 ชนิด ได้แก่ กรีฑา, ว่ายน้ำ, ฟุตซอล, แฮนด์บอลชายหาด, เทควันโด, วู๊ดบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติกลีลาและเด็กเล็ก, มวยไทยมวยสากล, เทเบิลเทนนิส และแดนซ์สปอร์ต การเรียนการสอนวันจันทร์-เสาร์ ยกเว้น ว่ายน้ำ ที่จัดให้มีการเรียนในวันอังคาร-อาทิตย์ สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2214-0120 ต่อ 8001, 3030 และ 3031

ส่วนเขตปริมณฑล ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 60 พรรษา เปิดสอน 12 ชนิด ได้แก่ ฟุตบอล, ฟุตซอล, แฮนด์บอล, วอลเลย์บอล, บาสเกตบอล, เซปักตะกร้อ, เทเบิลเทนนิส, ฮอกกี้, มวยไทย-มวยสากล, กอล์ฟ, วู๊ดบอล และ เปตอง เรียนวันจันทร์-วันอาทิตย์ ท่านที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2577-3951

อย่างไรก็ตามในส่วนของภูมิภาค เยาวชนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สถาบันการพลศึกษา และสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา ทั้ง 75 จังหวัดทั่วประเทศ โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 2-27 มี.ค.และมีพิธีเปิดพร้อมการปฐมนิเทศวันที่ 28 มี.ค. นี้

นายสมบัติ คุรุพันธ์ เผยว่า สพก.มีความพร้อมและมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้เด็ก เยาวชน ที่ไม่มีพื้นฐานด้านกีฬา สามารถเล่นกีฬาได้ เพราะเราดำเนินการโครงการนี้มานาน 15 ปี สำหรับสิ่งแปลกใหม่ในปีนี้คือ สพก. ไม่เน้นเรื่องทักษะกีฬา แต่จะเน้นกระบวนการพัฒนาเด็ก ให้มีความเข้าใจเรื่องกีฬา โดยยึดพื้นฐานจากเพลงกราวกีฬา ที่ว่ากีฬาเป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลสทำตนให้เป็นคน พร้อมกันนี้จะบูรณาการเรื่องจริยะธรรม คุณธรรม เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเยาวชน ซึ่งอันนี้นับเป็นเรื่องที่เราเพิ่มให้เด็กได้เรียนรู้ นอกเหนือจากทักษะการเล่นกีฬาที่ถูกต้อง

"เราศรัทธาว่ากีฬาจะสร้างคนให้เป็นคนดี 7 ล้านคน คือ เป้าหมายที่จะตั้งเป้าว่าจะต้องเข้าให้ถึง ถ้าเข้าถึงนั่นคือกำไร ของ สพก. เพราะการที่เยาวชนรักและเล่นกีฬาได้เสมือนเป็นการสร้างหลักประกันทางสังคม ว่าเยาวชนที่ผ่านวิถีของการกีฬาจะรู้จักการเป็นผู้นำ และผู้ตาม ที่ดีนอกจากรู้แพ้ ชนะ อภัย เด็กเปรียบเหมือนผ้าขาว อยู่ที่ว่าเราจะแต่งแต้มอะไรให้เขา"

"อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มทำการเรียนการสอน จะมีการอบรมโค้ชและเจ้าหน้าที่ที่เกียวข้องอย่างน้อย 2 วัน แม้ว่าโค้ชส่วนใหญ่จะเป็นผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญ และบางท่านเป็นผู้ฝึกสอนระดับนักกีฬาทีมชาติ แต่เพื่อให้การเรียนการสอนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และมีประสิทธิภาพมากขึ้นจึงให้มีการจัดอบรมให้แก่โค้ชก่อน" ผอ.สพก. ทิ้งท้าย

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

โปรโมชั่นพิเศษ

พี วี เทนนิส ได้ทำโปรโมชั่นสำหรับเดือนนี้สำหรับผู้สนใจทั้ง นักเรียนใหม่และเก่า
โดยแถมฟรีชั่วโมงเรียน สำหรับน้องๆ ที่ชำระเงินค่าคอร์สเทนนิสดังนี้

ชำระเงิน 2 คอร์ส รับเพิ่มฟรีชั่วโมงเรียน 1 ชั่วโมง
ชำระเงิน 3 คอร์ส รับเพิ่มฟรีชั่วโมงเรียน 2 ชั่วโมง
ชำระเงินรายปี รับชั่วโมงเรียนทั้งหมด 57 ชั่วโมง

สอบถามรายละเอียดได้ที่ พี วี เทนนิส ทุกสาขา

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

นำความรู้มาฝากครับ

การเลี้ยงลูกเชิงบวก

ผู้ใหญ่มักใช้วิธีรับมือกับเด็กด้วยความรุนแรง ด้วยหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาได้ แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นวิธีที่ไม่เคยใช้ได้ผล ที่สำคัญคือถือว่าผู้ใหญ่ได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรุนแรงไปแล้ว

ทว่าจากนี้ไปหนังสือ การสร้างวินัยเชิงบวก:ความเข้าใจที่ถูกต้องและวิธีนำไปใช้ (Positive Discipline:What it is and how to do it) โดย ดร.โจน อี ดูแรนท์ จะเป็นคู่มือเลี้ยงลูกเพื่อเป็นแนวที่ถูกต้องให้กับพ่อแม่

สรรพสิทธิ์ คุมประพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวถึงการใช้ความรุนแรงกับเด็กว่า มีนัยยะสำคัญทับซ้อนกันอยู่ 2 ประการ คือ ความรู้สึกต้องการสั่งสอนให้เด็กปรับพฤติกรรม และรองรับอารมณ์ของผู้ปกครอง ซึ่งเด็กไม่เคยเข้าใจว่าทำไมจึงถูกทำร้าย และยังมีผลต่อพฤติกรรมเด็กให้มีความรู้สึกหวาดกลัว กังวล และโกรธแค้นด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ ทั้งยังทำให้เด็กต่อต้านไม่อยากอยู่ใกล้พ่อแม่ แต่เด็กไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างแท้จริง เพราะลับหลังก็ยังเป็นเช่นเดิม
"ไม่ว่าจะเป็นการ ให้รางวัลหรือลงโทษด้วยการตีก็ไม่ส่งผลดีต่อเด็ก แต่สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำคือเป็น role model ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น" สรรพสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กแบ่งเป็น 3 ระยะ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ขวบ ในวัยนี้เด็กยังไม่มีพัฒนาการด้านคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุผล แต่จะเน้นพัฒนาการด้านอารมณ์พ่อแม่จึงไม่ควรอบรมด้วยการใช้เหตุผล แต่ต้องใช้วิธีดึงความสนใจ ช่วงวัย 6-12 ปี เป็นช่วงที่เริ่มใช้เหตุผล และอายุ 12-18 ปี เด็กวัยนี้ต้องการโต้เถียงด้วยเหตุผล ข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันก็เป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากผู้ใหญ่

ดร.สมบัติ ตาปัญญา นักวิชาการจิตวิทยาคลินิกและผู้แปลฉบับภาษาไทย กล่าวว่า ตลอด ระยะเวลาการทำวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กพบว่า เมื่อเด็กได้รับความรุนแรงพวกเขาจะซึมซับความรุนแรงเหล่านั้น และเมื่อเติบโตก็มีมักจะแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง

" เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้คู่แม้จะเขียนโดยนักวิชาการต่างประเทศแต่ก็ตั้ง อยู่บนพื้นฐานการเลี้ยงดูเด็กที่สามารถนำมาใช้ได้กับสภาพครอบครัวของประเทศ ไทย ซึ่งยังไงมีแนวคิดความเชื่อว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี" ดร.สมบัติ กล่าว

มร.โดมินิก ปิแอร์ ปลาโต้ ที่ปรึกษาระดับภูมิภาคด้านการป้องกันการล่วงละเมิดและการแสวงหาผลประโยชน์ จากเด็ก Save The Children Sweden กล่าวว่า มีเด็กทั่วโลกราวร้อยละ 80-90 ที่ได้รับการลงโทษทางร่างกายและจิตใจ ด้วยเป้าหมายที่ผู้ใหญ่คิดว่านั่นคือ \'การสร้างวินัยให้เด็ก\' และปัญหาการใช้ความรุนแรงกับเด็กก็มิได้เกิดเฉพาะในครอบครัวยากจนหรือใน ประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้น แม้แต่เด็กๆ ในประเทศตะวันตกก็เผชิญกับความรุนแรงจากครบครัวเช่นกัน องค์กรฯ จึงได้ร่วมรณรงค์ให้วันที่ 30 เม.ย.ของทุกปี ถือเป็น วันแห่งการยุติการทำร้ายเด็กนานาชาติ International Spank Out Day

สำหรับความหมายที่แท้จริงของ การสร้างวินัยเชิงบวก ก็คือการสอนที่ช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จโดยให้ข้อมูลความรู้ และความรักแก่เด็ก รวมถึงการสนับสนุนการเติบโตของพวกเขาโดยไม่ใช้การทำโทษทางร่างกายหรือจิต ใจ เพราะการลงโทษล้วนทำให้เด็กมีความก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับเด็ก

สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรลืมก็คือ มีเครื่องมืออันทรงพลังอยู่ 2 ประการ นั่นคือ การ ปฏิสัมพันธ์กับลูกอย่างอบอุ่นรักใคร่ และยอมรับ เพื่อเด็กจะได้รู้สึกปลอดภัย ไม่หวาดกลัวว่าจะถูกตำหนิหรือตะหวาดใส่หากเขาทำอะไรผิดพลาด เครื่องมืออีกประการหนึ่งก็คือการสร้างแนวทางสำหรับเด็กที่ไม่ได้หมายถึงการ ลงโทษหรือการขีดกรอบให้เดิน ทว่าแนวทางในที่นี้หมายถึงการให้ข้อมูลและการสื่อสาร

หากการลงโทษคือการหวังผลระยะสั้นเพื่อให้เด็กเปลี่ยนพฤติกรรม การสร้างวินัยเชิงบวก จึงเปรียบเสมือนวิธีรับมือที่พ่อแม่คาดหวังได้ในระยะยาว.